1. infographic กับ motiongraphic มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
2. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
3. สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
4. การนำเสนอข้อมูลแบบอินโฟกราฟิก คุณคิดว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอสังเขป
5. ถ้าเราใช้สีมากเกินไปในการออกแบบชิ้นงาน 1 ชิ้น จะส่งผลต่อชิ้นงานอย่างไร
2. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
3. สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
4. การนำเสนอข้อมูลแบบอินโฟกราฟิก คุณคิดว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอสังเขป
5. ถ้าเราใช้สีมากเกินไปในการออกแบบชิ้นงาน 1 ชิ้น จะส่งผลต่อชิ้นงานอย่างไร
1. แตกต่างกันinforgraphicคือ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน ส่วนmotiongraphicคือ จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. - เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียวที่สำคัญ
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
- ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.-เนื้อหาเยอะเกินไป
-การเลือกสีที่ฉุดฉาดเกิน
-ข้อมูลไม่ชัดเจน
4. ข้อดี มีความเข้าใจได้ง่าย มีความทันสมัย เด็กจะมีความเข้าใจได้ง่ายเพราะสื่อมีการนำเสนอด้วยภาพแบบเคลื่อนไหว motiongraphic
ข้อเสีย เด็กเข้าใจได้อยากในกรณีที่เป็นภาพนิ่งที่นำเสนอแบบ inforgraghic
5.จะทำให้งานไม่น่าสนใจ ดูมีความซับซ้อนมากเกินไปและทำการศึกษาได้ยาก
นางสาว สุนันท์ทิพย์ ศรีสุวรรณ 603045038 เลขที่38
1. อินโฟกราฟิกส์ เป็นภาพนิ่ง motiongraphic เป็นภาพเคลื่อนไหว
2. 1 เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว 2 ออกแบบให้เข้าใจง่าย 3 ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
4 แน่ใจว่าข้อเท็จจริงถูกต้อง 5 ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3. 1 อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป 2 อย่าใช้สีมากเกินไป 3 อย่านำเสนอข้อมูลที่ผิด
4. ข้อดี เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน รูปแบบน่าสนใจ
ข้อเสีย รูปบางรูปที่ใช้อาจสื่อความหมายที่ต้อวการสื่อได้ไม่ทั้งหมด
5. ทำให้งานดูซับซ้อน เข้าใจยาก และยากในการแยกแยะสิ่งต่าง
น.สศศินิภา ฝันถึงภูมิ 603045035
1. แตกต่างกัน
-infogarphic จะแสดงข้อมูลออกมาเป็นรูปภาพ
-motiongraphic จะแสดงออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. 1. ด้านข้อมูล ข้อมูลที่จะนำเสนอ ต้องมีความหมาย มีความน่าสนใจ เรื่องราวเปิดเผยเป็นจริง มีความถูกต้อง 2. ด้านการออกแบบ การออกแบบต้องมีรูปแบบ แบบแผน โครงสร้าง หน้าที่การทำงาน และความสวยงาม โดยออกแบบให้เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย และใช้ได้จริง
3. 1. อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป 6. อย่าสร้างอินโฟกราฟิกส์ให้น่าเบื่อ
2. อย่าทำข้อมูลที่นำาเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน 7. อย่าใช้วิธีการพิมพ์ผิด
3. อย่าใช้สีมากเกินไป 8. อย่านำเสนอข้อมูลที่ผิด
4. อย่าใส่ตัวเลขมากเกินไป 9. อย่าเน้นที่การออกแบบ
5. อย่าละเลยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุแยกแยะได้ 10. อย่าใช้แบบเป็นวงกลม
4. ข้อดี คือ เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ เด็กเข้าถึง่าย
ข้อเสีย คือ เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5. หาจุดเด่นของชิ้นงานได้ยาก อีกทั้งยังดูซับซ้อน ไม่ไปในทางเดียวกัน และชิ้นงานไม่น่าสนใจ
น.ส. เพลาพิลาส โคตะพันธ์ 603045024 เลขที่24
1.ตอบ
แตกต่างกัน - infogarphic เป็นรูปภาพ
- motiongraphic เป็นภาพเคลื่อนไหว
2. ตอบ
- เน้นหัวข้อหลักหัวข้อเดียว
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ใช้อินโฟกราฟิกในการเล่าเรื่อง
- ใช้สีที่ดึงดูดความสนใจ
- ใช้คำพูดที่กระชับ
3.ตอบ
- อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
- อย่าใช้สีมากเกินไป
- อย่านำเสนอข้อมูลที่ผิด
4.ตอบ ข้อดี ข้อมูลเข้าใจได้ง่าย
ข้อเสีย การสร้างที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนเข้าใจได้ยาก
5.ตอบ ทำให้งานดูรกไม่รู้ว่าตรงไหนคือจุดเด่นจุดสังเกตุของชิ้นงาน
นายอภินันท์ พลเตชะ 603045041 เลขที่41
1. มีความแตกต่างกันที่ infogarphic จะออกแบบเป็นภาพนิ่งให้เข้าใจได้ง่าย motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. 2.1เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว 2.2ออกแบบให้เข้าใจง่าย 2.3ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
3. 3.1อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป 3.2อย่าใช้สีมากเกินไป 3.3อย่าใส่ตัวเลขมากเกินไป
4. ข้อดี เป็นสื่อที่เข้าใจง่าย ข้อเสีย การใช้รูปภาพในบางสื่อที่อาจจะไม่เข้าใจ
5. ทำให้ชิ้นงานดูรกมากเกินไป
นางสาวธัญลักษณ์ แสนสุขเหลือ 603045014 เลขที่ 14
1. แตกต่างกัน อินโฟกราฟิกส์ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. - เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียวที่สำคัญ
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
- ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.-เนื้อหาเยอะเกินไป
-การเลือกสีที่ฉุดฉาดเกิน
-ข้อมูลไม่ชัดเจน
4. ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ เด็กเข้าถึงง่าย
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5.จะทำให้งานไม่น่าสนใจดูไปคนละแนว งานดูรกศึกษายาก
นาย ภานุวัมน์ จวนชัยภูมิ 603045026
1. Motion graphicไม่มีตังละครเป็นตัวดำเนินเรื่องแต่ Animationจะใช้ตัวละครดำเนินเรื่อง
2. -เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียวที่สำคัญ
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
- ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3. -อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
-อย่าสร้างอินโฟกราฟิกให้น่าเบื่อ
-อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
4. ข้อดีคือ มีความทันสมัย ข้อมูลกระชับครบถ้วน มีความโดดเด่นในการออกแบบ
ข้อเสียคือ บางรูปภาพที่ต้องการสื่ออาจจะเข้าใจได้ไม่ทั้งหมด
5.ทำให้งานดูรก ไม่มีจุดเด่นที่น่าสังเกต
นางสาวพิชญ์สินี สอนหอม 603045021
1.ตอบ แตกต่างกัน infogarphic จะเป็นรูปภาพ motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.เน้นหัวข้อหลักให้เด่น
2.ออกแบบกราฟฟิกให้เข้าใจง่าย
3.ใช้อินโฟกราฟฟิคที่น่าสนใจ
3.ตอบ 1.มีข้อมูลที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป
2.เนื้อหาไม่ชัดเจน
3.สีส้นฉุดฉาดเกินไป
4.ตอบ ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5.ตอบ จะทำให้งานรกมากจนไม่น่าสนใจและ ศึกษายาก
นายณัฐภัทร เทียนสวัสดิ์ เลขที่ 10 603045010
1. แตกต่างกัน อินโฟกราฟิกส์ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. - เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียวที่สำคัญ
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
- ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.-เนื้อหาเยอะเกินไป
-การเลือกสีที่ฉุดฉาดเกิน
-ข้อมูลไม่ชัดเจน
4. ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ เด็กเข้าถึงง่าย
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5.จะทำให้งานไม่น่าสนใจดูไปคนละแนว งานดูรกศึกษายาก
นาย ภานุวัมน์ จวนชัยภูมิ 603045026
1. infographic กับ motiongraphic มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
แตกต่างกัน อินโฟกราฟิกส์ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
-ออกแบบให้เข้าใจง่าย
-ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
-ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3. สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
-อย่าสร้างอินโฟกราฟิกให้น่าเบื่อ
-อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
4. การนำเสนอข้อมูลแบบอินโฟกราฟิก คุณคิดว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอสังเขป
ข้อดีคือ มีความทันสมัย ข้อมูลกระชับครบถ้วน มีความโดดเด่นในการออกแบบ
ข้อเสียคือ บางรูปภาพที่ต้องการสื่ออาจจะเข้าใจได้ไม่ทั้งหมด
5. ถ้าเราใช้สีมากเกินไปในการออกแบบชิ้นงาน 1 ชิ้น จะส่งผลต่อชิ้นงานอย่างไร
ทำให้ดูซับซ้อน ไม่ไปในทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาอาจผิดเพี้ยนได้
นาย ราชันย์ สมทอง เลขที่ 27 รหัส 603045027
1.ตอบ มีความแตกต่างกัน คือinfographic จะเป็นรูปภาพแต่ motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1. เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว 2. ออกแบบให้เข้าใจง่าย 3. ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ 4. ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.ตอบ 1. อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
2. อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
3. อย่าใช้สีและใส่ตัวเลขมากเกินไป
4. อย่าละเลยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุแยกแยะได้
4.ตอบ ข้อดี รวบรัด อ่านและเข้าใจง่าย ข้อเสีย รูปบางรูปอาจทำให้เข้าใจได้ยาก ว่าต้องสื่อถึงอะไร
5.ตอบ ทำให้ดูซับซ้อน ไม่ไปในทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาอาจผิดเพี้ยนได้และ จะทำให้งาน รก มากจนไม่น่าสนใจและ ศึกษายาก
นางสาว รินลดา ฉางตา 603045032 เลขที่ 32
1. infographic กับ motiongraphic มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
แตกต่างกัน อินโฟกราฟิกส์ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
-ออกแบบให้เข้าใจง่าย
-ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
-ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3. สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
-อย่าสร้างอินโฟกราฟิกให้น่าเบื่อ
-อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
4. การนำเสนอข้อมูลแบบอินโฟกราฟิก คุณคิดว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอสังเขป
ข้อดีคือ มีความทันสมัย ข้อมูลกระชับครบถ้วน มีความโดดเด่นในการออกแบบ
ข้อเสียคือ บางรูปภาพที่ต้องการสื่ออาจจะเข้าใจได้ไม่ทั้งหมด
5. ถ้าเราใช้สีมากเกินไปในการออกแบบชิ้นงาน 1 ชิ้น จะส่งผลต่อชิ้นงานอย่างไร
ทำให้ดูซับซ้อน ไม่ไปในทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาอาจผิดเพี้ยนได้
นางสาวชนมล ทาน้อย เลขที่ 6 603045006
1. infographic กับ motiongraphic มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
แตกต่างกัน อินโฟกราฟิกส์ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
-ออกแบบให้เข้าใจง่าย
-ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
-ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3. สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
-อย่าสร้างอินโฟกราฟิกให้น่าเบื่อ
-อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
4. การนำเสนอข้อมูลแบบอินโฟกราฟิก คุณคิดว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอสังเขป
ข้อดีคือ มีความทันสมัย ข้อมูลกระชับครบถ้วน มีความโดดเด่นในการออกแบบ
ข้อเสียคือ บางรูปภาพที่ต้องการสื่ออาจจะเข้าใจได้ไม่ทั้งหมด
5. ถ้าเราใช้สีมากเกินไปในการออกแบบชิ้นงาน 1 ชิ้น จะส่งผลต่อชิ้นงานอย่างไร
ทำให้ดูซับซ้อน ไม่ไปในทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาอาจผิดเพี้ยนได้
นางสาวณิชาภัทร จันทร์เทา 603045011
1. แตกต่างกัน อินโฟกราฟิกส์ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. - เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียวที่สำคัญ
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
- ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.-เนื้อหาเยอะเกินไป
-การเลือกสีที่ฉุดฉาดเกิน
-ข้อมูลไม่ชัดเจน
4. ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ เด็กเข้าถึงง่าย
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5.จะทำให้งานไม่น่าสนใจดูไปคนละแนว งานดูรกศึกษายาก
นางสาวอณัดตา โกนพิมาย 603045040
1.ตอบ แตกต่างกัน infogarphic จะเป็นรูปภาพ motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.เน้นหัวข้อหลักให้เด่นชัด
2.ออกแบบกราฟฟิกให้เข้าใจง่าย
3.ใช้อินโฟกราฟฟิคที่น่าสนใจ
3.ตอบ 1.มีข้อมูลที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป
2.เนื้อหาไม่ชัดเจน
3.สีส้นฉุดฉาดเกินไป
4.ตอบ ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5.ตอบ จะทำให้งาน รก มากจนไม่น่าสนใจและ ศึกษายาก
นางสาววรรณนิษา จันตรง เลขที่29
1.infogarphic จะแสดงข้อมูลออกมาเป็นรูปภาพ
motiongraphic จะแสดงออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. - เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
- แน่ใจว่าข้อเท็จจริงถูกต้อง
- ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
- การออกแบบที่ดีทำให้มีประสิทธิภาพ
- ใช้สีที่ดึงดูดความสนใจ
- ใช้คำพูดที่กระชับ
- ตรวจสอบตัวเลขข้อมูล
- ทำไฟล์อินโฟกราฟิกให้เล็ก
3. - อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
- อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
- อย่าใช้สีมากเกินไป
- อย่าใส่ตัวเลขมากเกินไป
- อย่าละเลยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุแยกแยะได้
- อย่าสร้างอินโฟกราฟิกให้น่าเบื่อ
-อย่าพิมพ์ผิด
- อย่านำเสนอข้อมูลที่ผิด
- อย่าเน้นที่การออกแบบ
- อย่าใช้แบบเป็นวงกลม
4.ข้อดี สามารถถ่ายทอดข้อมูลจากการออกแบบ สามารถเล่าเรื่องได้เพียงเเค่ดูภาพที่นำเสนอ
ข้อเสียอาจทำให้เด็กดูเเล้วเข้าใจยากเเละไม่สามารถสื่อให้เขาไม่เข้าใจได้
5. อาจทำให้ผลงานดูสีสันตัดกันไปมาเเล้วไม่น่าสนใจ ดูไม่เป็นไปในเเนวทางหรือเนื้อหาเดียวกัน
นายทศพร ห้วยทราย เลขที่ 12รหัส 603045012
1.ตอบ แตกต่างกัน infogarphic จะเป็นรูปภาพ motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.เน้นหัวข้อหลักให้เด่น
2.ออกแบบกราฟฟิกให้เข้าใจง่าย
3.ใช้อินโฟกราฟฟิคที่น่าสนใจ
3.ตอบ 1.มีข้อมูลที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป
2.เนื้อหาไม่ชัดเจน
3.สีส้นฉุดฉาดเกินไป
4.ตอบ ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5.ตอบ จะทำให้งาน รก มากจนไม่น่าสนใจและ ศึกษายาก
วิรัลยา ไชยวุฒิ 603045033
1.แตกต่างกัน infogarphic จะเป็นรูปภาพ motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.ออกแบบให้เข้าใจง่าย
2.เน้นหัวข้อหลักหัวข้อเดียว
3.ใช้อินโฟกราฟิกในการเล่าเรื่อง
4.รวบรัด อ่านง่าย
3.ตอบ 1.ใช้ข้อมูลมากเกินไป 2.เนื้อหาแน่นเกินไป 3ใช้สีมากเกินไป
4.ตอบ ข้อดี คือเข้าใจง่ายย เพราะใช้ภาพสื่อ ข้อเสีย อาจจะใช้ในเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบmotiongraphic ที่เคลื่อนไหวได้มากกว่า
5.ตอบ จะทำให้เนื้อหาดูไม่น่าสนใจ อ่านยาก แยกแยะข้อมูลยาก
นาย เนติพงษ์ เย็นใจ 603045017
1. แตกต่างกัน infogarphic จะเป็นรูปภาพ motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. 1.เน้นหัวข้อหลักให้เด่น
2.ออกแบบกราฟฟิกให้เข้าใจง่าย
3.ใช้อินโฟกราฟฟิคที่น่าสนใจ
3. 1.มีข้อมูลที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป
2.เนื้อหาไม่ชัดเจน
3.สีส้นฉุดฉาดเกินไป
4. ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5. จะทำให้งาน รก มากจนไม่น่าสนใจและ ศึกษายาก
1 ตอบ แตกต่างกัน infogarphic จะเป็นรูปภาพ
motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2 ตอบ 1. เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
2. ออกแบบให้เข้าใจง่าย
3. ข้อมูลเป็นสิ่งสำาคัญ
4. แน่ใจว่าข้อเท็จจริงถูกต้อง
5. ใช้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3 ตอบ
อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
อย่าใช้สีและใส่ตัวเลขมากเกินไป
อย่าละเลยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุแยกแยะได้
4 ตอบ
ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ เด็กเข้าถึง่าย
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5 ตอบ จะทำให้ชิ้นงานดูไม่เป็นระเบียบ หลากหลายจนเกินไป ดูไม่ราบรื่น และชิ้นงานจะดูไม่มีจุดเด่นไม่น่าสนใจ
นางสาวอักษร วงค์ก้อม 603045042
1. infographic กับ motiongraphic มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ infographic เหมาะสำหรับการทำกราฟิกที่อาจเป็นลายเส้น สัญลักษณ์ กราฟ แผนภูมิ ไดอะแกรม แผนที่
motiongraphic หมาะสำหรับการทำงานกราฟฟิกที่เคลื่อนไหวได้โดยการนำเอามาจัดเรียงต่อๆ กัน อธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายคือการทำให้ภาพวาด 2 มิติของเราเคลื่อนไหวได้
2. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
ตอบ 1.ข้อมูลที่จะนำเสนอ ต้องมีความหมาย มีความน่าสนใจ เเละถูกต้อง เรื่องราวเผยเเพร่ได้จริง
2.การออกเเบบต้องมีรูปเเบบ การวางเเผนโครงสร้าง ต้องมีความสวยงานเข้าใจง่ายนำไปใช้ได้จริง
3. สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
ตอบ 1.อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
2. อย่าใช้สีที่หลากหลายมาก
3.อย่าทำให้ข้อมูลซับซ้อน
4.อย่าร้างอินโฟกราฟิกที่น่าเบื่อ
5.อย่าใช้วิธีการพมผิด
4. การนำเสนอข้อมูลแบบอินโฟกราฟิก คุณคิดว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอสังเขป
ตอบ 1.ต้องมีจุดประสงค์ : เราสามารถบอกได้ว่า กิจกรรมที่เราทำประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ยกตัวอย่าง เราต้องการทำ อินโฟกราฟฟิค เป็นต้น
2. ต้องกลุ่มเป้าหมายชัดเจน : สิ่งที่เราต้องการสื่อสาร หรือกระทำส่งผลต่อใครบ้าง เช่น เราต้องการหาลูกค้าที่จะจ้างเราทำชิ้นงานบางอย่าง เราก็จะต้องวิเคราะห์ลูกค้าให้รอบด้านว่า มีสิ่งจูงใจอะไรบ้างที่ทำให้เขาเหล่านั้นตัดสินใจเลือก
3.ใจความสำคัญ : เนื้อหาหลักๆ ที่เราต้องการนำเสนอ เช่น เราต้องการสื่อสารเรื่อง โรคไข้เลือดออก ต้องมีเนื้อหาครบ
4.เนื้อหาต้องครบถ้วน และมีข้อมูลสนับสนุน : ผ่านกระบวนการ อ่าน วิเคราะห์ และสืบค้นอย่างรอบด้าน จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือ และถูกต้อง
5.ชื่อเรื่องน่าสนใจ : คนส่วนใหญ่จะตัดสินใจอ่านข้อมูลต่อหรือไม่ ขี้นอยู่กับชื่อเรื่อง
6.ความโดดเด่นของการออกแบบ : มีความกลมกลืน เข้ากันได้ สวยงาม กระต้นความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะใช้ภาพ หรือสัญลักษณ์แทนตัวอักษร ร่วมกับความเชื่อมโยงของเนื้อหา
5. ถ้าเราใช้สีมากเกินไปในการออกแบบชิ้นงาน 1 ชิ้น จะส่งผลต่อชิ้นงานอย่างไร
ตอบ ไม่ควรใช้สีมากเกินไป เพราะจะทำให้งานไม่มีความเรียบร้อย ทำให้งานไม่มีจุดเด่น ไม่มีความน่าสนใจ นางสาวนฤภร ขุนณรงค์ 603045015 เลขที่ 15
1 ตอบ แตกต่างกัน เพราะ Infographics คือการสื่อความหมายผ่านภาพ Motion Graphics คือ การใช้ภาพและตัวอักษรกราฟฟิกเคลื่อนไหวเพื่อสื่อความหมาย
2 ตอบ -เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
-ออกแบบให้เข้าใจง่าย
-ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3 ตอบ - อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
- อย่าใช้สีมากเกินไป
- อย่าเน้นการออกแบบ และอย่าใช้แบบเป็นวงกลม
4 ตอบ ข้อดี ประหยัดเวลาของผู้อ่าน เพราะความอ่านง่ายทำให้สามารถศึกษา ข้อมูลยากๆ ได้เร็วขึ้น ดึงดูดความสนใจได้
ข้อเสีย เนื้อหาบางอย่างอาจใช้ภาพเข้าถึงอย่างเดียวไม่ได้ และอาจมีการเข้าใจที่ผิดพลาด
5 ตอบ อาจทำให้งานไม่น่าสนใจและอาจไม่เข้าใจในการที่เราต้องการสื่อสาร
นางสาว วริศรา นามสีสุข 603045034 เลขที่ 34
1.ตอบ แตกต่างกัน infogarphic การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศออกแบบเป็นภาพนิ่ง
ส่วน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.ออกแบบให้เข้าใจง่าย
2.เน้นหัวข้อหลักหัวข้อเดียว
3.ใช้อินโฟกราฟิกในการเล่าเรื่อง
4.รวบรัด อ่านง่าย
3.ตอบ 1.อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
2.อย่าใช้สีมากเกินไป
3.อย่านำเสนอข้อมูลที่ผิด
4. อย่าใช้สีและใส่ตัวเลขมากเกินไป
4.ตอบ ข้อดี เข้าใจได้ง่าย จำเร็วง่าย
ข้อเสีย การสร้างที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนเข้าใจได้ยาก
5.ตอบ ทำให้งานไม่รู้ว่าตรงไหนคือจุดน่าสนใจของชิ้นงาน ลายตา
นายสัตยา กันพรมมา 603045036
1.ตอบ ต่างกัน
-infographic จะเป็นรูปภาพ
-motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ
- เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
- ออกแบบให้เข้าใจง่าย
- ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
- ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.ตอบ
- อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
- อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
- อย่าใช้สีและใส่ตัวเลขมากเกินไป
- อย่าละเลยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุแยกแยะได้
4.ตอบ
ข้อดี รวบรัด อ่านและเข้าใจง่าย
ข้อเสีย รูปบางรูปอาจทำให้เข้าใจได้ยาก ว่าต้องสื่อถึงอะไร
5.ตอบ จะทำให้เนื้อหาดูไม่น่าสนใจ อ่านยาก แยกแยะข้อมูลยาก
นางสาวนันลิตา นาสุอินทร์ 603045016
1. infographic กับ motiongraphic มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ เเตกต่างกัน
infogarphic เป็นรูปภาพ
motiongraphic จะแสดงออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.เน้นหัวข้อหลัก 2.ออกแบบให้เข้าใจง่าย 3.ใช้อินโฟกราฟฟิคเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.ตอบ 1.ใช้ข้อมูลมากเกินไป 2.เนื้อหาแน่นเกินไป 3ใช้สีมากเกินไป
4.ตอบ ข้อดี คือเข้าใจง่ายย เพราะใช้ภาพสื่อ ข้อเสีย อาจจะใช้ในเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบmotiongraphic ที่เคลื่อนไหวได้มากกว่า
5.ตอบ ทำให้ดูกระชับ ไม่ไปในทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาอาจผิดเพี้ยนได้
นางสาวปิยะวรรณ เนื่องบุญมา 603045019
นางสาวจิระสุดา ปาลสาร เลขที่ 5
1. infogarphic จะแสดงข้อมูลออกมาเป็นรูปภาพ
motiongraphic จะแสดงออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. 1.เน้นหัวข้อหลัก 2.ออกแบบให้เข้าใจง่าย 3.ใช้อินโฟกราฟฟิคเป็นตัวเล่าเรื่อง
3. 1.ใช้ข้อมูลเยอะเกินไป 2.เนื้อหาแน่นเกินไป 3.อย่าใช้แบบวงกลม
4. ข้อดี คือเข้าใจง่ายย เพราะใช้ภาพสื่อ ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและ เคลื่อนไหวได้
5. จะทำให้ชิ้นงานดูรก และเยอะเกินความจำเป็น บางข้อมูลอาจแยกแยะได้ยาก
1. infographic กับ motiongraphic มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
แตกต่างกัน อินโฟกราฟิกส์ การนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของกราฟิกที่ออกแบบเป็นภาพนิ่งดูแล้วเข้าใจง่ายในเวลารวดเร็วและชัดเจน motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2. กระบวนการที่ดีในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-เน้นที่หัวข้อหลักหัวข้อเดียว
-ออกแบบให้เข้าใจง่าย
-ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
-ให้อินโฟกราฟิกเป็นตัวเล่าเรื่อง
3. สิ่งที่ไม่ควรทำในการออกแบบอินโฟกราฟิก ได้แก่อะไรบ้าง จงยกตัวอย่าง
-อย่าทำข้อมูลที่นำเสนอให้ยุ่งยากซับซ้อน
-อย่าสร้างอินโฟกราฟิกให้น่าเบื่อ
-อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
4. การนำเสนอข้อมูลแบบอินโฟกราฟิก คุณคิดว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จงอธิบายมาพอสังเขป
ข้อดีคือ มีความทันสมัย ข้อมูลกระชับครบถ้วน มีความโดดเด่นในการออกแบบ
ข้อเสียคือ บางรูปภาพที่ต้องการสื่ออาจจะเข้าใจได้ไม่ทั้งหมด
5. ถ้าเราใช้สีมากเกินไปในการออกแบบชิ้นงาน 1 ชิ้น จะส่งผลต่อชิ้นงานอย่างไร
ทำให้ดูซับซ้อน ไม่ไปในทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาอาจผิดเพี้ยนได้
นางสาว สุวิชญา วงศ์ดาว เลขที่ื 44
1.ตอบ แตกต่างกัน infogarphic เป็นรูปภาพ
motiongraphic เป็นภาพเคลื่อนไหว
2. ตอบ
1 เน้นหัวข้อหลักหัวข้อเดียว
2.ออกแบบให้เข้าใจง่าย
3.ใช้อินโฟกราฟิกในการเล่าเรื่อง
4.ใช้สีที่ดึงดูดความสนใจ
5.ใช้คำพูดที่กระชับ
3.ตอบ
1.อย่าใช้ข้อมูลมากเกินไป
2.อย่าใช้สีมากเกินไป
3.อย่านำเสนอข้อมูลที่ผิด
4.ตอบ ข้อดี ข้อมูลเข้าใจได้ง่าย
ข้อเสีย การสร้างที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนเข้าใจได้ยาก
5.ตอบ ทำให้งานดูรกไม่รู้ว่าตรงไหนคือจุดเด่นจุดสังเกตุของชิ้นงาน
น.ส.ชฎาพร ภูหัวดอน 603045043 เลขที่ 43
นาย ชุติพนธ์ หวายฤทธิ์ 603045008
1.ตอบ แตกต่างกัน infogarphic จะเป็นรูปภาพ motiongraphic จะเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.เน้นหัวข้อหลักให้เด่น
2.ออกแบบกราฟฟิกให้เข้าใจง่าย
3.ใช้อินโฟกราฟฟิคที่น่าสนใจ
3.ตอบ 1.มีข้อมูลที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป
2.เนื้อหาไม่ชัดเจน
3.สีส้นฉุดฉาดเกินไป
4.ตอบ ข้อดี เข้าใจได้ง่าย นำเสนอได้หลายรูปแบบ
ข้อเสีย เข้าถึงเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบดูงานที่เป็นแบบการ์ตูนและเคลื่อนไหวได้
5.ตอบ จะทำให้งาน รก มากจนไม่น่าสนใจและ ศึกษายาก
1.ตอบ แตกต่างกัน
infogarphic จะแสดงข้อมูลออกมาเป็นรูปภาพ
motiongraphic จะแสดงออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว
2.ตอบ 1.เน้นหัวข้อหลัก 2.ออกแบบให้เข้าใจง่าย 3.ใช้อินโฟกราฟฟิคเป็นตัวเล่าเรื่อง
3.ตอบ 1.ใช้ข้อมูลเยอะเกินไป 2.เนื้อหาแน่นเกินไป 3.อย่าใช้แบบวงกลม
4.ตอบ ข้อดี คือเข้าใจง่ายย เพราะใช้ภาพสื่อ ข้อเสีย อาจจะใช้ในเด็กได้ยากเพราะเด็กจะชอบmotiongraphic ที่เคลื่อนไหวได้มากกว่า
5.ตอบ จะทำให้ชิ้นงานดูเละเทะ และเยอะเกินความจำเป็น บางข้อมูลอาจแยกแยะได้ยาก
นายพงศกร กุลธนะปรีดาภรณ์ 603045020